หลักสูตร Soft Skillsนั้น จริงๆแล้วไม่มีหลักสูตรตายตัว ไม่ใช่การเรียนแบบทฤษฎีที่มีคำตอบถูกหรือผิด การเรียน Soft Skills เป็นการพัฒนาความคิดและอารมณ์แบบองค์รวม ผ่านกิจกรรมที่ทางสถาบันได้ออกแบบมาเพื่อสร้างความมั่นใจในตนเองอย่างถูกทาง ขอย้ำว่า
“อย่างถูกทาง”
เพราะถ้าความมั่นใจของลูกที่มีมากเกินไป จะกลายเป็นความเอาแต่ใจตนเอง และความเห็นแก่ตัวได้ค่ะ กิจกรรมของสถาบันเน้นฝึกให้เด็กมีความเชื่อมั่นในตนเอง กล้าแสดงความคิดเห็น ตอบเสียงดัง ฟังชัด ผ่านการถามเพื่อให้เด็กสามารถอธิบายลำดับเหตุการณ์ได้ สร้างภาวะผู้นำ กล้าเผชิญกับอุปสรรค และความผิดพลาดของตนเองอย่างองอาจ ให้เด็กเรียนรู้จากความผิดพลาดแล้วมาช่วยเขาคิดว่าจะแก้สถานการณ์ หรือจะปรับปรุงให้ดีขึ้นได้อย่างไร พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความจริง คิดบวกกับปัญหา ไม่มั่นใจจนเกินไป จนไม่ฟังเสียงคนรอบข้าง
เหตุใดจึงควรสอน Soft Skills ในเด็กระดับประถมศึกษาและมัธยมต้น? เมื่อเรายังเป็นเด็กจิตใจของเราเปรียบเสมือนฟองน้ำและเราซึมซับทุกสิ่งและทุกสิ่งที่เราได้รับการบอกเล่า ง่ายต่อการที่จะแนะนำทักษะใหม่ๆ และมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นรากฐานสำหรับชีวิต การจุดประกายความสนใจของนักเรียนตั้งแต่อายุยังน้อยเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาการเรียนรู้ของพวกเขา เด็กเรียนรู้เพราะการสร้างทักษะให้เรียนรู้สิ่งต่างๆ สำหรับใช้ในอนาคตโดยไม่ตั้งคำถามว่าทำไม ดังนั้นช่วงในวัยประถมหรือในไตรมาสแรกของชีวิตจึงเป็นช่วงนาทีทองที่จะฝึกทักษะต่างๆ เพื่อช่วยให้เราผ่าน 3 ไตรมาสของชีวิตถัดไปได้อย่างราบรื่น นักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดได้ตั้งข้อสังเกตว่า ความสามารถในการเรียนรู้และการเก็บความทรงจำของเด็กนั้นมีประสิทธิภาพต่างจากผู้ใหญ่เป็นอย่างมาก
นักเรียนจะได้อะไรจากการเรียน Soft Skills
หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับนักเรียนวัย 4 – 14 ปี แบ่งเรียนเป็นกลุ่มเล็กๆ กลุ่มละไม่เกิน 3 คน ในแต่ละคาบนักเรียนจะได้ฝึกทักษะ Soft Skills ผ่านกิจกรรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้เด็กๆ ได้ฝึกและพัฒนาทักษะดังต่อไปนี้
1. Problem solving
เมื่อเกิดข้อผิดพลาดระหว่างการทำงาน นักเรียนสามารถที่จะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
2. Critical thinking
นักเรียนสามารถคิดด้วยเหตุผล สามารถคิดวิเคราะห์ในการแก้ไขปัญหา หรือวางแผนและตัดสินใจการทำงานอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
3. Flexibility
ความสามารถในการปรับตัวได้กับทุกสถานการณ์ที่ต้องเผชิญ หรือแม้กระทั่งความสามารถในการปรับวิธีการทำงานให้กับเข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการทำงาน
4. Communication
นักเรียนจะได้ฝึกทักษะด้านการเขียนหรือการพูด ความสามารถในการติดต่อสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพในทุกสถานการณ์
5. Teamwork
เนื่องจากงานโดยส่วนใหญ่ที่เราได้รับอาจจะต้องทำงานร่วมกับผู้อื่น ดังนั้นหากเราสามารถทำงานแบบทีมได้ดี ก็ย่อมเพิ่มโอกาสที่เราจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการทำงาน
6. Creativity
การคิดนอกกรอบอย่างสร้างสรรค์ เป็นทักษะสำคัญที่เราควรมี แม้ว่าเราอาจจะไม่ถนัดในการจินตนาการ แต่การฝึกฝนก็สามารถช่วยเราได้เช่นกัน
7. Emotional Intelligence
การควบคุมอารมณ์ หมายถึง ความสามารถในการจัดการอารมณ์ความรู้สึกทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการทำงาน เนื่องจากในการทำงาน เราจำเป็นจะต้องใช้เหตุผลในการทำงาน และควบคุมสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นด้วยสติ
8. Responsibility
ความรับผิดชอบเป็นสิ่งสำคัญ ที่เราจะต้องรับผิดชอบงานที่เราได้รับมอบหมายและทำให้เสร็จตามเวลาที่กำหนด